เมนู

บรรลุวิชชาสามตามลำดับ ได้ปฏิบัติคำสอนของพระ-
พุทธเจ้าแล้ว.

จบ เมตติกาเถรีคาถา

6. อรรถกถาเมตติกาเถรีคาถา


คาถาว่า กิญฺจาปิ โขมฺหิ ทุกฺขิตา เป็นต้น เป็นคาถาของพระ
เถรีชื่อเมตติกา.
แม้พระเถรีชื่อเมตติกาองค์นี้ ก็สร้างสมบุญบารมีไว้ในพระพุทธเจ้า
องค์ก่อน ๆ สั่งสมบุญที่เป็นอุปนิสัยแห่งนิพพานไว้ในภพนั้นๆ ในกาลแห่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามสิทธัตถะ นางเกิดในตระกูลคฤหบดีรู้ความแล้ว ได้
บูชาที่พระเจดีย์ของพระศาสดา ด้วยสายรัดเอวประดับ ด้วยรัตนะ ด้วยบุญกรรม
นั้น นางท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ในพุทธุปปาทกาลนี้เกิดใน
ตระกูลพราหมณ์มหาศาล เรื่องที่เหลือเหมือนเรื่องติด ๆ กันที่กล่าวแล้ว แต่
พระเถรีนี้ขึ้นยอดภูเขาที่คล้ายกัน ทำสมณธรรมเจริญวิปัสสนา ได้บรรลุ
พระอรหัตพร้อมด้วยปฏิสัมภิทาทั้งหลาย เพราะเหตุนั้น ท่านจึงกล่าวไว้ใน
อปทานว่า1
ข้าพเจ้าได้สร้างพระสถูปของพระผู้มีพระภาค-
เจ้าพระนามว่าสิทธัตถะ ได้ถวายสายรัดเอวเพื่อนวกรรม
ของพระศาสดา และเมื่อพระมหาสถูปสำเร็จ แล้ว
ข้าพเจ้าเลื่อมใสพระมุนีผู้เป็นนาถะของโลก ได้ถวาย
สายรัดเอวอีกด้วยมือของตน
ในกัปที่ 94 แต่ภัทรกัปนี้ ข้าพเจ้าได้ถวายสาย

1. ขุ. 33/ข้อ 142 เมขลทายิกาเถรีอปทาน.

รัดเอวในคราวนั้น ข้าพเจ้าไม่รู้จักทุคติ นี้เป็นผลแห่ง
การสร้างพระสถูป ข้าพเจ้าเผากิเลสแล้ว ฯลฯ ข้าพเจ้า
ได้ปฏิบัติคำสอนของพระพุทธเจ้าแล้ว.

ครั้นบรรลุพระอรหัตแล้ว พิจารณาการปฏิบัติของคน ได้กล่าวคาถา
สองคาถานี้เป็นอุทานว่า
ข้าพเจ้ามีทุกข์ ทุพพลภาพ ผ่านความเป็น
สาวไปแล้ว ต้องถือไม้เท้าไปไหน ๆ ก็จริง ถึงอย่าง
นั้นก็ยังขึ้นภูเขาได้ ข้าพเจ้าวางผ้าสังฆาฏิ และคว่ำ
บาตรนั่งบนภูเขา ครั้งนั้นจิตของข้าพเจ้าหลุดพ้นแล้ว
ข้าพเจ้าบรรลุวิชชาสามตามลำดับ ได้ปฏิบัติคำสอน
ของพระพุทธเจ้าแล้ว.

บรรดาบทเหล่านั้น บทว่า ทุกฺขิตา ความว่า มีทุกข์ คือถึงความ
ทุกข์ที่เกิด เพราะมีโรคมาก. บทว่า ทุพฺพลา ความว่า เพราะถึงความ
ทุกข์นั่นแหละด้วย เพราะแก่หง่อมด้วย เพราะหมดกำลังด้วย ด้วยเหตุนั้น
ท่านจึงกล่าวว่า คตโยพฺพนา ความว่า ถึงวัยกลางคนแล้ว.
บทว่า อถ จิตฺตํ วิมุจฺจิ เม ความว่า ข้าพเจ้าเป็นผู้นั่งอยู่บนศิลา
คือบนแผ่นหิน ครั้งนั้น คือในลำดับนั้น จิตของข้าพเจ้าหลุดพ้นแล้วจาก
อาสวะแม้ทั้งหมดตามลำดับมรรค เพราะประกอบโดยชอบทีเดียวด้วยความเป็น
ผู้มีความเพียรสม่ำเสมอ. คำที่เหลือมีนัยดังกล่าวแล้วนั่นแล.
จบ อรรถกถาเมตติกาเถรีคาถา

7. มิตตาเถรีคาถา


[426] ข้าพเจ้าปรารถนาเทพนิกาย เข้าจำอุโบสถ
ประกอบด้วยองค์ 8 ประการตลอดวัน 14 ค่ำ 15 ค่ำ
8 ค่ำแห่งปักษ์ และตลอดปาฏิหาริยปักษ์ วันนี้
ข้าพเจ้ามีภัตตาหารมื้อเดียว มีศีรษะโล้น ห่มผ้า
สังฆาฏิ ไม่ปรารถนาเทพนิกาย ข้าพเจ้ากำจัดความ
กระวนกระวายในหทัยได้.

จบ มิตตาเถรีคาถา

7. อรรถกถามิตตาเถรีคาถา


คาถาว่า จาตุทฺทสึ ปญฺจทสึ เป็นต้น เป็นคาถาของพระเถรีชื่อ
มิตตา อีกองค์หนึ่ง.
แม้พระเถรีชื่อ มิตตา องค์นี้ ก็สร้างสมบารมีไว้ในพระพุทธเจ้าองค์
ก่อน ๆ สั่งสมกุศลที่เป็นอุปนิสัยแห่งพระนิพพานไว้ในภพนั้น ๆ ในกาลแห่ง
พระผู้มีพระภาคเจ้าพระนามวิปัสสี นางเกิดในตระกูลกษัตริย์ รู้ความแล้วเป็น
นางในของพระเจ้าพันธุมะ เห็นพระเถรีผู้เป็นขีณาสพองค์หนึ่ง ซึ่งเป็นสาวิกา
ของพระผู้มีพระภาคเจ้าวิปัสสี มีใจเลื่อมใส รับบาตรจากมือของพระเถรีนั้น
แล้วใส่ของเคี้ยวอันประณีตจนเต็ม ไปถวายพร้อมกับผ้าสาฎกมีค่ามากสองผืน
ด้วยบุญกรรมนั้น นางท่องเที่ยวอยู่ในเทวโลกและมนุษยโลก ในพุทธุปปาท
กาลนี้เกิดในศากยราชตระกูล ในกรุงกบิลพัสดุ์ รู้ความแล้ว ฟังธรรมในสำนัก